เดลินิวส์ 14/11/2543 ศาลไม่รับธรรมกายฟ้องเดลินิวส์ !


ศาลอาญายกฟ้อง"เดลินิวส์" กรณีถูกตัวแทนอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายฟ้องหมิ่นประมาท วิ นิจฉัยแล้วทุกข้อความติชมด้วยความเป็นธรรม และแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตใจ เป็นการกระ ทำเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา เป็นการฟ้องซ้ำ แถมคดีขาดอายุความ 3 เดือน นับแต่วันที่พบการกระทำผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง



คดีตัวแทนวัดพระธรรมกายฟ้อง"เดลินิวส์"หมิ่นประมาทยุติ ศาลอาญาสั่งยกฟ้อง วินิจฉัยแล้วกระทำเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา ทุกข้อความติชมด้วยความเป็นธรรม และแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตใจ เป็นการฟ้องซ้ำ แถมคดีขาดอายุความ 3 เดือน นับแต่วันที่พบการกระทำผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 พ.ย. ศาลได้ออกนั่งบัลลังค์อ่านคำสั่งในคดีที่พระภาณุมาศ ภาณุปาโณ ผู้รับมอบอำนาจจากพระราชภาวนาวิสุทธิ์(พระธัมมชโย) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัทสี่พระยาการพิมพ์ จำกัด จำเลยที่ 1 นายประชา เหตระกูล บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์เดลินวส์ จำเลยที่ 2 นายวรพจน์ แสนประเสริฐ จำเลยที่ 3 และ น.ส.เชาวลี ชุมขำ จำเลยที่ 4 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสารและผิดพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 คดีดังกล่าวตามบรรยายฟ้องของโจทก์เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2543 ระบุความผิดโดยสรุปว่า ระหว่างวันที่ 27 ส.ค. 2542 ต่อเนื่องกันจนถึงวันฟ้อง จำเลยทั้ง 4 ได้ร่วมกันสนับสนุน และเสนอข่าวในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ โดยเรียกโจทก์ด้วยถ้อยคำแดกดันต่างๆกันว่า นายไชยบูลย์,พระปลอม,ปลาไหล,เดียรถีย์,และเจ้าลัทธิฉาว รวมทั้งข้อความทำนองว่า เล่นขนาดอุ้มเจ้าคณะตำบล เจอเล่ห์กลสารพัดรูปแบบแม้กระทั่งแกล้งดับไฟ อวดอุตริมนุสสธรรม สัมพันธ์ลึกล้ำพระพรหมโมลี-ไชยบูลย์ ขบวนการอุ้มเดียรถีย์ ? และข้อความอื่นๆอันเป็นเท็จใส่ความโจทก์ต่อประชาชนทั่วไปให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

ทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนโง่เขลา ขาดจากความเป็นพระภิกษุ ปลิ้นปล้อนหลอกลวง ประพฤติตนเสื่อมเสีย ยักยอกเงินของวัดไปให้สตรีเพศ ตลอดจนขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ความจริงแล้วโจทก์ยังอยู่ในสมณเพศ มีสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช เหตุเกิดที่บริเวณต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีและที่อื่นเกี่ยวพันกัน โจทก์จึงได้ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วยและให้พวกจำเลยลงโฆษณา คำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวัน 6 ฉบับเป็นเวลา 7 วัน และให้เป็นผู้ชำระค่าโฆษณาด้วย

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วรับฟังได้ว่า การเสนอข่าวของจำเลยนั้นได้กระทำติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว แต่การเสนอข่าวและพาดหัวข่าวทุกครั้งหากอ่านเนื้อ หาโดยละเอียดจะพบว่า ถ้อยคำและบทความที่โจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นการหมิ่นประมาทนั้น จำเลยได้เสนอหลักฐานไว้ในข่าวด้วย โดยมีที่มาของแหล่งข่าวหรือหากเป็นถ้อยคำของบุคคลสำคัญก็จะมีการระบุตำแหน่งไว้ชัดเจน อาทิ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา อธิบดีกรมการศาสนา หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้งรัฐมนตรีซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ

นอกจากนี้พยานหลักฐานที่โจทก์นำมาแสดงต่อศาล ก็ปรากฏรายละเอียดของการให้สัมภาษณ์ของบุคคลต่างๆ ซึ่งให้ข้อคิดและวิธีป้องกันแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้เกี่ยวกับตัวโจทก์ และเมื่อฟังโดยรวมจะเห็นว่าการกระทำของจำเลยก็เพื่อมุ่งหวังปกป้อง พระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาประจำชาติ สำหรับความผิดพ.ร.บ.สงฆ์นั้น ศาลในคดีก่อนได้วินิจฉัยชัดแจ้งแล้วว่า การกระทำของจำเลยไม่ได้เข้าข่ายความผิด ดังนั้นความผิดฐานนี้ของโจทก์ที่ยื่นฟ้องมาจึงเป็นการฟ้องซ้ำ

การเสนอข่าวของจำเลยที่เป็นแหล่งที่มา ก็เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้นับถือศาสนาพุทธและผู้ที่เกี่ยวข้องในการใช้ดุลพินิจตัดสินว่า การกระทำและคำสั่งสอนของโจทก์นั้นสมควรหรือไม่ อีกทั้งฝ่ายโจทก์ที่มาเบิกความว่าเรื่องทั้งหมดนั้นจำเลยปั้นแต่งขึ้นมาเอง เพื่อจงใจกลั่นแกล้งหรือมุ่งหวังทำลายโจทก์แต่ฝ่ายเดียวโดยไร้จรรยาบรรณ ฝ่ายโจทก์ก็เบิกความตอบการซักค้านของทนายจำเลยว่า หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นก็ลงข่าวเกี่ยวกับโจทก์ในช่วงเวลาและทำนองเดียวกัน ซึ่งถูกโจทก์ที่เป็นพระภิกษุควรสละแล้วซึ่งสิ่งทั้งปวงฟ้องร้องเช่นเดียวกัน เห็นได้ว่าการที่จำเลยใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาทจำเลยมีข้อมูลที่ปรากฏต่อสาธารณชน ที่ได้รับมาจากแหล่งข่าวซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่น่าเชื่อถือทั้งสิ้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตใจ ติชมด้วยความเป็นธรรมที่พึงกระทำได้ จึงไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท

นอกจากนี้คำฟ้องของโจทก์ก็ขาดอายุความแล้ว เนื่องจากระบุในคำฟ้องว่าเหตุเกิดระหว่างวันที่ 27 ส.ค. 2542 จนถึงวันฟ้องวันที่ 12 เม.ย. 2543 โจทก์ไม่เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่พบการกระทำผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง


0 ความคิดเห็น:

กรุณาล็อกอินก่อนใช้งาน