นายวิชัย ตันศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ตนและนายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา ได้เข้านมัสการเจ้าคณะใหญ่หนกลาง เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินการตามกฎนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งท่านบอกว่าได้ส่งมติมหาเถรสมาคม (มส.) ให้พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ดำเนินการแล้ว ขอให้ทำตามมติมหาเถรฯไปก่อน แล้วดูท่าทีของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ว่าจะปฏิบัติอย่างไร
"ส่วนที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีระบุว่าต้องรอคำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนกลางก่อน เจ้าคณะใหญ่หนกลางบอกว่าให้ทำตามมติมหาเถรฯ ทันที ไม่ต้องรอคำสั่งจากท่าน คิดว่าไม่เกิน 5-6 วันน่าจะมีการดำเนินการ"
นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ได้ไปขอความกรุณาเจ้าคณะใหญ่หนกลางให้เร่งดำเนินการตามมติมหาเถรฯ พร้อมกับให้ท่านช่วยกำกับดูแลการดำเนินการของคณะผู้พิจารณาชั้นต้นด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องการปกครองสงฆ์ไม่อยากให้ล่าช้า เพราะจะทำให้เกิดความไม่เรียบร้อยตามมา
"อยากให้มีการจัดการปัญหาให้รวดเร็วเหมือนกับที่พระธรรมกิตติมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี จัดการปัญหาความขัดแย้งภายในวัดสวนแก้ว ซึ่งท่านได้เรียกทุกฝ่ายมาสอบถามข้อเท็จจริงโดยไม่ให้คนอื่นไปตอบคำถามแทน ถ้าผู้ปกครองมีความชัดเจนเช่นนี้จะทำให้ปัญหาคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งถือว่ากรณีนี้เป็นการแสดงศักยภาพ ของคณะสงฆ์ เพราะถือว่าเป็นการจัดการเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตามอำนาจหน้าที่ของท่าน"
สำหรับกรณีที่มีใบปลิวจาบจ้วงสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหา สังฆปริณายก และโจมตีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง อันเนื่องมาจากกรณีปัญหาวัดพระธรรมกายนั้น นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯ กล่าวว่า จะประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนที่มาที่ไปของใบปลิวดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ก่อความไม่สงบ หากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับใบปลิวนี้เป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตวัดพระธรรมกายก็อาจจะมีผลต่อคดีได้ เช่น อาจมีผลต่อการให้ประกันตัว
นายอำนวย สุวรรณคีรี ประธานที่ ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า อยากฝากให้หน่วยข่าวต่าง ๆ ของรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ล่อแหลมต่อความมั่นคงของชาติ หากไม่มีการจัดการที่เด็ดขาดก็ยิ่งทำให้ได้ใจ และคิดทำการโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
ม.ล.จิตติ นพวงศ์ ศิษย์ห้องกระจก วัดบวรนิเวศวิหาร กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า เป็นการประกาศความชั่วของตนเอง เมื่อแสดงออกมาก็ทำให้รู้ทันทีว่าเป็นคนเช่นไร ถ้าคนชั่วตำหนิก็คงไม่ต้องไปกลัว น่าเห็นใจคนเหล่านี้ที่พวกเขาคงโกรธที่การดำเนินการของพวกเขาไม่บรรลุจุดมุ่งหมาย อย่างกรณี ดร.เบญจ์ บาระกุล ที่เขียนหนังสือโจมตีบุคคลต่าง ๆ ก็หลบหนีหายไป ไม่ยอมมอบตัวกับตำรวจเพื่อต่อสู้ความจริง คนเช่นนี้เป็นคนขี้ขลาด
พระราชกวี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวางแผน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) กล่าวว่า เป็นการกระทำของคนพาลที่ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ส่วนวิธีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ก็ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเป็นผู้เข้ามาจัดการ
ด้าน น.ส.ชุลีพร ช่วงรังษี ประชาสัมพันธ์มูลนิธิธรรมกาย กล่าวเรียกร้องให้ผู้ที่เผยแพร่ข้อความโจมตีบุคคลต่าง ๆ ที่ต่อต้านวัดพระธรรมกายหยุดดำเนินการ เนื่องจากไม่เป็นผลดีต่อวัดพระธรรมกาย ทางวัดมีนโยบายไม่ว่าร้ายใคร การดำเนินการเช่นนี้ไม่มีประโยชน์ อย่างไรก็ตามคงไม่สามารถไปควบคุมคนอื่นได้
"การทำเช่นนี้ทำให้วัดพระธรรมกายเสื่อมเสีย หากเป็นพุทธศาสนิกชนที่แท้จริงแล้วย่อมแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช่สาดโคลนใส่กัน".
0 ความคิดเห็น:
กรุณาล็อกอินก่อนใช้งาน