เดลินิวส์ 15/1/2543 ฤทธิ์สาวก"ไชบูลย์"แอบอ้างชื่อหลอกอจ.


ตำรวจตะลึงฤทธิ์ธรรมกาย ข่าวสะพัดวัดฉาวกล่อมเศรษฐีนีล้มเลิกความตั้งใจกล่าวโทษ "ไชยบูลย์" ฉ้อโกงที่ดินจ.เลย ขนาดทำหนังสือย้อนหลังยกที่ดินทั้งหมดให้เจ้าลัทธิจานบินแล้ว เจ้าตัวไม่ยอมปริปากบอกแค่ว่าไปรู้มาอย่างไร สาวกเอาอีกแอบอ้างชื่อเป็นหน่วยข่าวนายกฯขอข้อมูลอาจารย์จุฬาฯ ที่ขนชาวบ้านมาฟ้องร้องถูกโกงที่ดินโคราช ดีที่ไม่ยอมหลงกล



เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมารายงานข่าวจากกองปราบปราม เปิดเผยว่า จากกรณีที่พนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกาย ได้สอบปากคำพยานที่บริจาคที่ดินให้กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นที่ดินใน จ.เลย โดยพบว่าพยานรายหนึ่งคือ นางเพ็ญศรี สุขุมพานิช ได้ให้การยืนยันว่าได้บริจาคที่ดินให้กับวัดพระธรรมกายตามคำเชิญชวนของ "เสี่ย ส." ไม่ได้บริจาคที่ดินให้กับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใดนั้น ปรากฏว่าภายหลังจากที่ทางวัดพระธรรมกายทราบข่าวก็ได้ส่ง "สีกา น." ซึ่งเป็นสีกาคนสนิทของนายไชยบูลย์ พร้อมกับพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดจำนวนหนึ่ง เดินทางไปเกลี้ยกล่อมนางเพ็ญศรีให้ร่วมลงรายมือชื่อในเอกสารว่า มีเจตนายกที่ดินให้กับนายไชยบูลย์เป็นการส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงไปยังนางเพ็ญศรี โดยนางเพ็ญศรีได้ย้อนถามกลับมาว่า ทราบเรื่องได้อย่างไร ก่อนที่จะวางหูโทรศัพท์โดยไม่ยอมกล่าวอะไรทั้งสิ้น แหล่งข่าวในคณะพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า กรณีของนางเพ็ญศรีหากไปร่วมลงลายมือชื่อเช่นนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดี เนื่องจากนางเพ็ญศรีได้ให้ปากคำไว้กับพนักงานสอบสวนเป็นหลักฐานแล้ว หากมีการกลับคำให้การอาจมีความผิดฐานให้การเท็จได้

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค. พนักงานสอบสวนได้ทำรายงานเกี่ยวกับการสอบสวนที่ดินของบริษัทดอกหญ้าที่ จ.นครราชสีมา ใกล้น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เสนอต่อพล.ต.ท.ล้วน ปานรศทิพ หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน เนื่องจากมีการเสนอข่าวที่เกี่ยวข้อง แต่ในรายงานผลการสอบสวนนั้นระบุว่า ได้ส่งให้ตำรวจป่าไม้ไปตรวจสอบแล้วว่าที่ดินของบริษัทดอกหญ้าบุกรุกที่ป่าสงวนหรือไม่

ทางด้านนายมานพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญกรมการศาสนา กล่าวถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนแปลงกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 ว่า โดยหลักการแล้วไม่สามารถสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันได้ หากจะมีการเปลี่ยนแปลงก็มีเพียงหนทางเดียวคือต้องปลดออกจากตำแหน่ง แล้วจึงแต่งตั้งพระรูปอื่นขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน ทั้งนี้ โดยส่วนตัวมองว่าผู้ที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 ในขณะนี้น่าจะเป็นพระธรรมกิตติมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เจ้าอาวาสวัดเฉลิมพระเกียรติ เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน

ส่วนพระเทพสุธี รองเจ้าคณะภาค 1 คนปัจจุบันนั้น ก็เคยร่วมอยู่ในคณะผู้พิจารณาชั้นต้นตามกฎนิคหกรรมนายไชยบูลย์ และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ถูกครหาด้วย จึงไม่มีความเหมาะสม เช่นเดียวกับพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี

สำหรับพระธรรมกิตติมุนีนี้ นายมานพกล่าวว่า บวชมาแล้วมากกว่า 20 พรรษา เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม เปรียญธรรม 9 ประโยค เป็นเจ้าคณะจังหวัดมาแล้วกว่า 4 ปี ที่สำคัญมีปฏิปทาดี มีความตรงไปตรงมาและมีความเข้มแข็ง หากเข้ามารับตำแหน่งแทนจริง ก็เชื่อมั่นได้ว่าปัญหาธรรมกายจะยุติลงได้ในเร็ววันนี้

อย่างไรก็ตาม เรื่องการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เพราะอีก 6 เดือนกรรมการมหาเถรฯชุดเดิมก็จะหมดวาระลง จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการที่มาจากการแต่งตั้ง 12 รูปอยู่แล้ว ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชจะทรงเป็นผู้แต่งตั้งด้วยพระองค์เอง เชื่อว่าจะทรงแต่งตั้งพระที่สามารถสนองงานพระพุทธศาสนาได้อย่างเต็มที่เข้ามาเป็นกรรมการมหาเถรฯ ทุกอย่างจะราบรื่น และที่ผ่านมาก็ตระหนักดีกันอยู่แล้วว่าปัญหาวัดพระธรรมกายติดขัดตรงกรรมการมหาเถรฯ

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เจ้าคณะภาค 1 รูปปัจจุบัน เคยถูกสั่งพักตำแหน่งมาแล้วครั้งหนึ่งฐานย่อหย่อนต่อการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความวุ่นวายในการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดหนึ่งใน จ.ปทุมธานี เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นางพรชุลี อาชวอำรุง อาจารย์ประจำภาควิชาอุดมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุรายการหนึ่งเกี่ยวกับการนำชาวบ้าน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปร้องเรียนสภาทนายความ เพื่อขอให้ช่วยดำเนินการให้มีการยกเลิกสัมปทานปลูกป่าในเขตอุทยานน้ำตกเจ็ดสาวน้อย โดยตอนหนึ่งได้กล่าวพาดพิงถึงการทำหนังสือร้องเรียนถึงรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีหลายสมัย จากนั้นได้มีบุคคลติดต่อขอพบและขอข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด โดยอ้างว่าเป็นฝ่ายข่าวของสำนักนายกรัฐมนตรี ชื่อ "นายนาวิน" ไม่เปิดเผยนามสกุล พร้อมกับยื่นข้อเสนอว่าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อบริษัทในเครือวัดพระธรรมกาย 20 บริษัท ซึ่งดร.พรชุรีตั้งข้อสังเกตว่า การยื่นข้อเสนอของบุคคลดังกล่าวไม่เกี่ยวกับกรณีที่ตนเองกำลังดำเนินการร้องเรียนกับสภาทนายความ ดังนั้นจึงได้ติดต่อพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกาย ขอให้ช่วยตรวจสอบเกี่ยวกับบุคคลดังกล่าวว่ามีหน้าที่อยู่ในสำนักนายกรัฐมนตรีจริงหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งว่า ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ติดต่อไปยังทำเนียบรัฐบาล ฝ่ายข่าวของสำนักนายกรัฐมนตรี กองกลาง และสำนักข่าวกรอง ซึ่งปรากฏว่าไม่มีชื่อ "นาวิน" สังกัดอยู่ในหน่วยงานนั้นๆเลย

0 ความคิดเห็น:

กรุณาล็อกอินก่อนใช้งาน