'ธรรมกาย' ทิ้งขว้างไม่สนใจสาวกท้องร่วงหลังโดนอาหารเป็น พิษจากโรงทาน แม่แฉสลดลูกชายวัย 7 ขวบ กินข้าวหมูแดงของ วัด ทั้งแม่-ลูกท้องร่วงรุนแรงทันที อาเจียนไม่ยอมหยุดถึงกับ หมดสติ พระ และกัลยาณมิตรก็เห็น แต่เมินเฉยไม่ช่วยเหลือ ต้องหอบสังขารอุ้มลูกขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างส่งร.พ.เอง ผิดกับ ตอนแรก เอารถบัสติดแอร์ไปรับจากบ้าน ลั่นเข็ดไม่มาอีกแล้ว หมอประจำวัดอ้าง ยินดีรับผิดชอบ พูดมาได้คนป่วยน้อย แค่ 0.1 เปอร์เซ็นต์ ส่วน 'ไชยบูลย์' โผล่เทศน์หยอดคำหวานอีกตามเคย
จากกรณีที่วัดพระธรรมกายระดมคนครั้งใหญ่ จัดงาน ฉลองมหาธรรมกายมหาเจดีย์ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ ผ่านมา โดยเกณฑ์ทั้งญาติโยม ตลอดจนพระภิกษุ สามเณรจากต่างจังหวัดจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการ ออกทุนเหมารถโดยสาร ถวายปัจจัยพระสงฆ์สามเณร ขณะเดียวกันเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย ญาติโยมจำ นวนนับร้อยคนต่างมีอาการท้องร่วง และอาเจียนกัน ระนาว บางรายหนักถึงขั้นอาเจียนเป็นเลือด สาเหตุ มาจากอาหารที่ทางวัดนำมาแจกจ่าย ต้องหามส่งร.พ. กันจ้าละหวั่น แพทย์วินิจฉัยมาจากอาหารเป็นพิษ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า ยังคงมีผู้ที่เดินทางเข้าร่วมงานฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ที่วัดพระธรรม กาย และมีอาการป่วยด้วยอาหารเป็นพิษนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.จำนวน 4 คน บางราย อาการเริ่มทุเลา และบางรายอาการยังน่าวิตกอยู่ โดยเฉพาะรายของด.ช.ฐากูร อ่ำสิงห์ อายุ 7 ปี บุตรชายของนางสุเมธ อ่ำสิงห์ อายุ 31 ปี อาชีพแม่ค้าขายโจ๊กอยู่ที่แฟลตการ เคหะหนองจอก กทม. ยังคงมีอาการหนักอยู่ ต้องนอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียง ใบหน้าซีด เซียวอย่างเห็นได้ชัด โดยมีนางสุเมธนั่งเฝ้าไข้มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา
นางสุเมธ กล่าวว่า ตนกับบุตรชายเดินทางมาร่วมงานของวัดพระธรรมกาย แล้วกิน ข้าวหมูแดงที่ทางวัดแจก ภายหลังกินเข้าไปมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ด้านด.ช.ฐา กูรก็ปวดท้องอย่างรุนแรงเช่นกัน แต่หนักกว่าตนคืออาเจียนออกมาไม่หยุด ระหว่างนั้น พยายามขอความช่วยเหลือจากพระที่เดินถือวิทยุสื่อสารอยู่ภายในวัด รวมถึงเจ้าหน้าที่ ของวัดที่แต่งชุดขาวหลายคน แต่ไม่มีใครสนใจ นอกจากตนและบุตรชายแล้ว ยังมี เด็กอีกหลายคนที่มีอาการหนัก บางถึงปวดท้องและอาเจียนอย่างหนักจนหมดสติ แต่ ทุกคนก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางวัดเลย ในที่สุดตนจึงกัดฟันหอบสังขารอุ้มบุตร ชายที่อาการหนักกว่า เดินฝ่าฝูงชนภายในออกวัดออกมาอย่างทุลักทุเล แล้วขึ้นรถจักร ยานยนต์รับจ้างมาร.พ.
นางสุเมธ กล่าวต่อว่า ภายหลังได้รับการรักษาแล้ว บุตรชายอาการเริ่มดีขึ้น ส่วนตนอา การไม่หนักมาก และตั้งแต่เข้ามารักษาตัวที่ร.พ.ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่ของวัดพระธรรม กายมาดูแลเลย ทั้งที่เราก็เดินทางมาร่วมงานของเขา ก่อนหน้าที่จะมาทางวัดพระ ธรรมกายนำรถบัสติดแอร์อย่างดีไปรับถึงที่บ้าน โดยบอกว่ามาแล้วจะได้รับพระ เป็น พระดีจะทำให้ค้าขายแล้วรวย และจะได้ของแจก เช่น อาหาร ขนม ทำให้คนแถวบ้าน ตนอยากมากันหลายคน บุตรชายของตนก็ร้องอยากจะมาบ้าง ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความเชื่อ ถือศรัทธาอะไรเลย
"ทางวัดไม่มาดูแลเรา ซ้ำยังปล่อยให้จูงลูกชายออกมาเข้าร.พ.เอง เสียความรู้สึกมาก คราวต่อไปคงไม่มาอีกแล้ว ครอบครัวเรามีฐานะยากจน ตอนมาวัดมีเงินแค่ 50 บาท ดี ที่สามีมาเร็ว มิฉะนั้นฉันและลูกคงอายแน่ๆ วัดพระธรรมกายน่าจะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแล ญาติโยมบ้าง ไม่ใช่ปล่อยไว้แบบนี้ ฉันอยากจะแจ้งความเหมือนกัน แต่ไม่ใช่คนแถวนี้ เลยไม่รู้จะทำอย่างไร" หนึ่งในประชาชนที่ถูกเกณฑ์มาวัดพระธรรมกาย แล้วป่วย เพราะกินอาหารแจกของวัด กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ระหว่างนางสุเมธและบุตรชายรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติอยู่นั้น ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่จากวัดพระธรรมกายกลุ่มหนึ่งเข้ามาสอบ ถามนางพยาบาลว่า มีผู้ป่วยท้องร่วงจากวัดพระธรรมกายมารักษาตัวจริงหรือไม่ จาก นั้นนางสุเมธจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกายฟัง ก่อนจะพูดจา ปลอบใจนางสุเมธ พร้อมทั้งร้องขอว่าอย่าแจ้งความ และอย่าให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เพราะจะทำให้วัดเสื่อมเสีย
0 ความคิดเห็น:
กรุณาล็อกอินก่อนใช้งาน