เดลินิวส์ 28/4/2543 พระธรรมโมลีรักษาการเจ้าคณะภาค 1


นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการเข้านมัสการสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง พร้อมด้วยนายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา เพื่อสอบถามความคืบหน้าการดำเนินการแต่งตั้งเจ้าคณะภาค 1 เพื่อดำเนินการตามกฎนิคหกรรมกับวัดพระธรรมกายว่า สมเด็จพระมหาธีราจารย์แจ้งว่าพระเทพสุธี เจ้าอาวาสวัดสามพระยา รองเจ้าคณะภาค 1 ซึ่งรักษาการเจ้าคณะภาค 1 ได้ทำหนังสือขอลาออกจากการรักษาการเจ้าคณะภาค 1 อย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 เม.ย. เนื่องจากเห็นว่าคณะผู้พิจารณาชั้นต้นยังไม่ครบองค์ประชุมเพราะจากการทาบทามเจ้าคณะจังหวัดในภาค 1 แล้วก็ตอบปฏิเสธกลับมาทุกรูป ซึ่งสมเด็จพระมหาธีราจารย์ได้ขอเวลาอีก 2-3 วัน ในการพิจารณาแต่งตั้งรักษาการเจ้าคณะภาค 1 รูปใหม่



รมช.ศึกษาธิการกล่าวว่า เมื่อคณะผู้พิจารณาชั้นต้นครบองค์ประชุมเชื่อว่า น่าจะสามารถดำเนินการตามกระบวนการนิคหกรรมได้ทันที ไม่ต้องรอเรียกเจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายมารับทราบข้อกล่าวหาอีก เนื่องจากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีได้เรียกมารับทราบข้อกล่าวหาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มาถือว่าเป็นการแสดงเจตนาที่จะขัดคำสั่งเจ้าคณะผู้ปกครองชัดเจนอยู่แล้ว

ด้านอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้การดำเนินการตามกฎนิคหกรรมล่าช้า เพราะกฎมหาเถรสมาคมระบุว่าหากตำแหน่งเจ้าคณะภาคว่างลงรองเจ้าคณะภาค จะต้องรักษาการแทนไปก่อน ดังนั้นเมื่อเจ้าคณะภาค 1 ว่าง รองเจ้าคณะภาค 1 ก็ต้องขึ้นมารักษาการแทนทำให้คณะผู้พิจารณาชั้นต้นกรณีวัดพระธรรมกายซึ่งต้องประกอบด้วย เจ้าคณะภาค 1 รองเจ้าคณะภาค 1 และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ไม่ครบองค์ประชุม เพราะฉะนั้นการที่พระเทพสุธียื่นใบลาออกจากการรักษาการเจ้าคณะภาค 1 ก็เป็นเรื่องที่ดีที่เจ้าคณะใหญ่หนกลางจะแต่งตั้งรักษาการเจ้าคณะภาค 1 รูปใหม่ ซึ่งจะเป็นรูปใดก็ได้ที่มีความเหมาะสมขึ้นมาเพื่อใหัครบองค์ประชุม ซึ่งจะสามารถดำเนินการตามกฏนิคหกรรมกับพระวัดพระธรรมกายได้ทันที ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวจากวัดชนะสงครามแจ้งว่า สาเหตุที่พระเทพสุธี เจ้าอาวาสวัดสามพระยาขอลาออกจากตำแหน่งรักษาการเจ้าคณะภาค 1 เนื่องจากว่าไม่สามารถดำเนินการสรรหาเจ้าคณะจังหวัดมาร่วมเป็นองค์ประชุม ในการดำเนินการตามกระบวนการนิคหกรรมนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายกับพระเผด็จ ทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้ รวมทั้งท้อแท้กรรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันก่อนหน้าที่จะรับตำแหน่งรักษาการว่าไร้ความสามารถ คดีวัดพระธรรมกายคงไม่มีความคืบหน้าด้วย

รายงานยังแจ้งด้วยว่า ขณะนี้สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงครามและเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้ติดต่อทาบทางผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง รักษาการเจ้าคณะภาค 1 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้แก่ พระธรรมโมลี เจ้าคณะภาค 15 และเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม ซึ่งพระราชาคณะรูปดังกล่าวนี้มีนิสัยตรงไปตรงมาเหมือนกับสมเด็จพระมหาธีราจารย์มาก และในอดีตก็เคยเป็นพระสงฆ์ในปกครองด้วยเคยจำวัดอยู่คณะ 10 ในวัดชนะสงครามมาก่อน ส่วนเหตุที่ต้องให้มารักษาการเจ้าคณะภาค 1 นั้นเนื่องจากต้องรอให้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 15 ก่อน อย่างไรก็ดีหลายฝ่ายเชื่อว่ากรณีปัญหาวัดพระธรรมกายจะมีความคืบหน้าอย่างแน่นอน

สำหรับประวัติของพระธรรมโมลี (สมศักดิ์ อุปสโม)นั้น จบเปรียญธรรม 9 ประโยค เกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2484 ณ ตำบลปางจั่น อ.นครหลวง พระนครศรีอยุธยา อุปสมบทเมื่อปี 2504 ที่วัดละมุด อยุธยา โดยมีพระครูนครวิหารคุณ (ฟัก) วัดบันไดเป็นพระอุปัชฌาย์ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เป็นเจ้าคณะภาค 15 เป็นรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาลีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม

ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ล้วน ปานรศทิพ ผบช.ก.ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกาย ได้เรียก พล.ต.ต.วันชัย ศรีนวลนัด รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัตร ผู้ช่วย ผบช.ก. และพนักงานสอบสวนในคดีเข้าประชุมนานประมาณ 3 ชั่วโมงในการประชุมครั้งนี้มีการพิจารณาประเด็นของ สีกา ส.ที่พนักงานสอบสวนพบว่า มีการโอนเงินจากวัดพระธรรมกายเป็นเงินจำนวนกว่า 700 ล้านบาท เนื่องจากมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะขออนุมัติออกหมายจับได้ หลังจากนั้น พล.ต.ท.ล้วน ได้เปิดเผยว่า ได้สอบถามถึงรายละเอียดที่ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนไป โดยพยานหลักฐานสามารถรวบรวมได้จำนวนหลายอย่าง แต่ไม่สามารถบอกได้ สำหรับการตรวจสอบบัญชีของสีกาที่เกี่ยวข้องนั้น บางส่วนก็ชัดเจน บางส่วนก็ไม่ชัดเจน ซึ่งต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้าจะมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดแน่นอน มีรายงานด้วยว่า ในการประชุมครั้งนี้พนักงานสอบสวนเตรียมตัวออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องอีก 3 คน.


1 ความคิดเห็น:

กรุณาล็อกอินก่อนใช้งาน